Search for:
  • Home/
  • Sports News/
  • “ชูวิทย์” เปิดชื่อย่อ 2 นายพลยัดเยียดเงิน 6 ล้านขอหยุดแฉ“สารวัตรซัว” ถามกลับทนายตั้ม…

“ชูวิทย์” เปิดชื่อย่อ 2 นายพลยัดเยียดเงิน 6 ล้านขอหยุดแฉ“สารวัตรซัว” ถามกลับทนายตั้ม…

กรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ภาพเงินเป็นปึกที่ใส่ไว้ในถุงกระดาษ พร้อมข้อความระบุว่า "แฉไป ไถไป"คนที่คุณเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด หมดศรัทธา" ต่อมานายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์ชี้แจงว่า เงินที่เห็นในถุงกระดาษจำนวน 6 ล้านบาทเป็นเงินที่ตำรวจยศนายพล นำมาให้ เพื่อขอหยุดแฉ “สารวัตรซัว” แต่ไม่รับ แต่นำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้โรงพยาบาลนั้น

ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้ตั้งแถลงรายละเอียดหลังถูกกล่าวหา โดยระบุว่า ทนายตั้มรู้สึกผิดหวังกับตนก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้ต้องการให้ทนายตั้งมานิยมชมชอบมีคนรักคนเกลียดก็ไม่เป็นไรทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ตนจะพูด และจะไล่เรียงให้ฟังมีดังนี้

 “ชูวิทย์” เปิดชื่อย่อ 2 นายพลยัดเยียดเงิน 6 ล้านขอหยุดแฉ“สารวัตรซัว” ถามกลับทนายตั้ม...

ประการแรก ทนายตั้ม เอาข้อมูลมาจากบุคคลหนึ่ง ซึ่งตนเคยเลี้ยงตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ชื่อ เล่นว่า “เปา” เด็กคนนี้ไม่มีพ่อแม่ และมีคนเอามาฝาก ตนก็ได้เลี้ยงดูดั่งลูก ได้ส่งเสียให้เรียนในโรงเรียนดังแห่งหนึ่งจนสำเร็จการศึกษาและ ก็มาทำงานด้วย ได้ติดตามตนตลอด ซึ่งทุกคนก็เคยเห็น จนกระทั่ง ตนติดคุกก็ให้นายเปาไปเก็บเงินค่าเช่าคอนโด เล็กๆน้อยๆ 30,000 – 50,000 บาทบ้าง ตนติดคุกอยู่ 10 เดือนกว่า นายเปาก็บอกว่าเก็บเงินไม่ได้ แต่จริงๆคนเช่าจ่ายให้หมดแล้ว แต่นายเปานำเงินมาหมกไว้ และตนก็ได้ต่อว่านายเปา จนนำเงินมาคืนให้ ต่อมา นายเปา ขอลาออกไปทำงานกับ “สารวัตรซัว” โดยที่ตนไม่รู้ เหตุผลเพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน

“เงิน 50 ล้านเป็นดิจิทัลผมไม่เคยได้รับ เงิน 50 ล้านมาจากแทนไทย แต่ถ้าถามว่าผมได้พบแทนไทหรือไม่ ผมได้พบโดยมีนายตำรวจคนหนึ่งพามาหาผม และ ยังจำได้ว่านายแทนไท บอกว่าไปหาพี่สนธิ ผมก็ยังเตือนไปว่าคิดจะฟ้องพี่สนธิคิดผิดแล้ว นั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับนายแทนไท พบที่โรงแรมแบบเปิดเผย เขามาเวลากลางวันมากับนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่านายตำรวจคนดังกล่าวพานายแทนไทยไปพบพี่สนธิด้วยหรือเปล่า และ พี่สนธิก็คงไม่เชื่อว่านายคนนี้ประกอบอาชีพสุจริต ยืนยัน 50 ล้านไม่มีไปตรวจสอบได้เลย ”

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่สอง เรื่องเงิน 2 ถุง ขอยืนยันว่าเงินทั้ง 2 ถุง แบ่งเป็นถุงละ 3 ล้านบาท มีนายตำรวจ 2 นาย คนหนึ่งชื่อย่อ อ. ยศ พล.ต.ต. ยังรับราชการอยู่ อีกคนชื่อย่อ ป. ยศ พล.ต.ท. เกษียณอายุราชการแล้ว บุคคลนี้ตนรู้จักมากว่า 30 ปี ตั้งแต่ทำอาบอบนวด โดยทั้ง 2 คนได้มาพบกับตนพร้อมมอบเงินดังกล่าวให้ตนก็ปฏิเสธไม่เอาเพราะรับเคลียร์ไม่ได้ และก็ขอให้เขาเอากลับไปซึ่งทั้ง 2 ก็นำมายัดเยียดให้

ท้ายสุดผมก็บอกว่า “ถ้าพี่ให้มาอย่างนี้ ผมก็ต้องเอาไปทำอย่างอื่นแล้ว ผมเอาไว้ไม่ได้ เขาก็บอกว่า ก็แล้วแต่ชูวิทย์จะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ชูวิทย์ ผมก็นำเงิน 3 ล้านไปบริจาคให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ 14 ก.พ. อีก 3 ล้านไปบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราชเมื่อวันที่ 15 มี.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ทุกอย่างมีหลักฐาน”

นายชุวิทย์ ยังย้ำว่า ถ้าเงินดังกล่าวมีจำนวน 10 ล้านบาทจริง ตนเก็บไว้เองก็ได้ทำไมต้องเอาไปบริจาค และถ้าเงิน 10 ล้านจริงตนจะเก็บไว้ทำไม 4 ล้านแล้วนำไปบริจาค 6 ล้าน ทำไมไม่เก็บไว้ 6 ล้านแล้วนำไปบริจาค 4 ล้าน บริจาคที่ละ 2 ล้านก็ได้ ซึ่งประเด็นทั้งหมดเป็นสิ่งที่สังคมต้องตัดสิน

“จึงอยากถามว่า ทนายตั้มรับงานใครมาโจมตีผมในขณะนี้ ในขณะที่เครื่องร้อน ใน ขณะที่ผมพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็มีทั้งพี่สนธิเล่นผม มีทั้งทนายตั้ม มีทั้งสันธนะ มีทั้งศรีสุวรรณ ใครต่อใครรุมผม แต่คุณฟังผมดีๆ ในงานนี้ผมตั้งใจและเต็มใจที่จะสู้ เมื่อเปิดหน้าชกแล้วย่อมมีคนที่รุมผม แต่ผมไม่กลัวคนรุม

ส่วนประเด็นเรื่องของ นายแทนไท ที่ถูกทนายตั้มตั้งคำถามว่าทำไมถึงไม่แฉ นายชูวิทย์ ระบุว่า เป็นเพราะนายแทนไทข้อมูลน้อยมาก และได้แปลงร่างโดยตลอด โดยแปลงไปทำธุรกิจที่ถูกต้อง